ทำกับข้าวกินเองตามประสาชาย(โฉด)โสด #7


ผักไต้หวันและเห็ดผัดซอสน้ำมันหอย

ผักไต้หวันและเห็ดผัดน้ำมันหอย

ช่วงนี้ไม่ค่อยจะมีบทความวิชาการหรือเรื่องเล่าต่างๆมาเขียน เพราะหน่ายๆกับสภาพแวดล้อมรอบๆตัวพอสมควรครับ พอจะมีกิจกรรมที่ทำบ่อยๆและผมก็สนุกกับมัน ก็คือ ทำกับข้าวกินเองนี่แหละ และครั้งนี้ก็ขอเสนอเมนูสุขภาพกันอีกสักเมนูครับ เนื่องจากว่าวันนี้กลับมาถึงบ้านเร็วพอสมควร เลยไปคุ้ยๆตู้เย็นดู เห็นว่ายังมีผักเหลืออยู่ในตู้เย็นเยอะ และถ้าไม่เอามาทำล่ะก็คงจะเน่าคาตู้แน่ๆ เลยต้องเอามาทำกินก่อน แต่มันเหลือนู่นนิดนี่หน่อย ก็คิดอยู่นานว่าจะทำอะไรดี ในที่สุดก็ได้เมนูง่ายๆนี้เอง คือ “ผักไต้หวันและเห็ดผัดซอสน้ำมันหอย” ครับ

ผักไต้หวัน เป็นผักใบเขียวที่มีเส้นใยมาก ซึ่งจะช่วยให้ระบบขับถ่ายเป็นปกติ หากทานประจำจะช่วยแก้อาการท้องผูก ท้องเฟ้อได้ นอกจากนี้ยังมีวิตามิน A, B และ C สูงมากอีกด้วย ส่วนเห็ดหอมและเห็ดชิเมจิ ผมได้เคยกล่าวถึงในตอนก่อนขออนุญาตละไว้ตรงนี้แล้วกันครับ

เครื่องปรุง 
ผักไต้หวัน, เห็ดหอม, เห็ดชิเมจิ และเห็ดอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งจำชื่อไม่ได้แล้วล่ะครับ เพราะตอนที่แกะห่อออกไม่ทันดู เห็ดอะไรก็ไม่รู้ครับ แต่มีรูปมาให้ดูกันครับ เผื่อว่ามีใครรู้จักเจ้าเห็ดนี้ก็ช่วยกรุณาให้ความรู้กับผมเป็นวิทยาทานหน่อยนะครับ
ส่วนเครื่องปรุงอื่นๆ ก็จะมีกระเทียมบุบ, น้ำมันพืช (หากมีน้ำมันงาจะใช้น้ำมันงานแทนก็จะได้กลิ่นหอมมากขึ้นไปอีก), ซอสน้ำมันหอย, น้ำปลา, แป้งมันสำปะหลัง, น้ำตาลทราย, น้ำเปล่า

วิธีทำ
1. ล้างผักและเห็ดต่างๆให้สะอาด
2. ละลายแป้งมันสำปะหลังในน้ำสะอาด ใช้แป้งประมาณ 1 ช้อนโต๊ะกับน้ำประมาณ 3-4 ช้อนโต๊ะก็พอครับ
3. ตั้งกระทะให้ร้อน ใช้ไฟแรง เทน้ำมันพืชนิดหน่อย พอร้อนดีก็ใส่กระเทียมลงเจียวให้เหลืองหอม
4. ใส่ผักไต้หวัน ซอสน้ำมันหอย น้ำปลา น้ำตาล ผัดพอให้ผักสลดนิดหนึ่ง ก็ใส่เห็ดต่างๆลงไปแล้วผัดต่อ
5. เติมน้ำเปล่าพอขลุกขลิก ชิมรสและปรุงตามชอบใจ จากนั้นก็นำแป้งมันสำปะหลังที่ละลายในน้ำค่อยๆเทลงไปในกระทะพร้อมกับคนให้เข้ากัน พอให้น้ำเริ่มข้นเหนียวก็ยกขึ้นและตักใส่จาน ทานกับข้าวสวยร้อนๆ . . .  อึ้มมมมมมม รอดตายไปอีกมื้อครับ

เมนูนี้หากจะทำกินช่วงกินเจก็ปรับเปลี่ยนนิดหน่อยเองครับ คือไม่เจียวกระเทียม และเปลี่ยนจากซอสน้ำมันหอยเป็นซอสเจ เพียงเท่านี้ก็ใช้ได้แล้ว

หลายๆท่านทีเคยเข้ามาอ่านบทความชุดทำกับข้าวกินเองฯที่ผมเขียน อาจจะรู้สึกหงุดหงิด เพราะผมไม่ค่อยจะได้ระบุปริมาณ ของเครื่องปรุง ซึ่งผมตั้งใจเช่นนั้นเอง ไม่ได้งกสูตรอะไรหรอกนะครับ แต่มันไม่มีสูตร์น่ะ มันเกิดจากประสบการณ์ที่ทำกับข้าวกินเอง ลองนู่นลองนี่ และปรุงรสตามความชอบของตัวเอง จากรสชาติสุนัขไม่รับประทาน(จริงๆ) จนเริ่มเห็นว่า เออ… อร่อยแฮะ (ชมตัวเองอีก) ซึ่งอาจจะไม่เหมือนกับคนอื่น จึงไม่ได้ระบุว่าต้องใส่อะไรเท่าไหร่ เพียงแต่บอกแค่ว่าผมใส่ส่วนผสมอะไรบ้างพอสังเขปและเป็นแนวทางเผื่อท่านอยากลองทำเองก็จะได้นำไปประยุกต์ตามลิ้นของตนเองครับ

ใส่ความเห็น