ทำกับข้าวกินเองตามประสาชาย(โฉด)โสด #22


บัวลอยไข่หวาน

สวัสดีครับ ครั้งนี้มาทำขนมหวานกันอีกสักหน หลังจากที่ได้ทำไปเมื่อคราวก่อน ทำให้เริ่มติดใจ อยากจะหาอะไรมาทำอีกสักอย่างสองอย่าง เรื่องของเรื่องก็คืออยากกินบัวลอยไข่หวาน ซึ่งไม่ได้กินมานานแล้ว ก็เลยเป็นที่มาของบทความคราวนี้แหละครับ

หลายๆคนอ่านมาถึงตรงนี้คงคิดว่าไอ่คนเขียนมันท่าจะบ้าแน่แล้ว อยู่คนเดียวจะไปทำทำไมให้มันยุ่งยาก(วะ) ซื้อเขากินง่ายกว่าตั้งแยะ ซึ่งก็จริงครับ แต่ซื้อเขากินมันน้อยไม่ค่อยสะใจ แถมกะทิยังใสกิ๊งยังกะน้ำล้างก้น นัยว่าเป็นการลดต้นทุนเพื่อไม่ต้องบวกเพิ่มลงไปในราคาขาย แต่ขนมไทยถ้าไม่ถึงเครื่องมันก็ไม่อร่อยน่ะสิ ว่าแล้วก็มาเริ่มทำกันเลยดีกว่าครับ

ส่วนผสม

แป้งขนมบัวลอยสำเร็จรูป, กะทิสำเร็จรูป, เกลือป่น, น้ำตาลทราย, น้ำตาลมะพร้าว ถ้าไม่มีใช้น้ำตาลปี๊บแทนก็ได้ครับ กะทิสำเร็จรูปแป้งขนมบัวลอยสำเร็จแป้งขนมบัวลอยสำเร็จรูปอย่างที่เคยย้ำหลาย ๆ ครั้งครับว่า บทความแนว“ทำกับข้าวกินเองฯ”ที่ผมเขียนนี้เน้นที่ความสะดวกและรวดเร็ว ก็อาจจะมีละเลยบางส่วนหรืออาจจะใช้ของสำเร็จรูปมาใช้แทน ดังนั้นแทนที่ผมจะปั้นแป้งบัวลอยเองก็เลยใช้แบบสำเร็จรูปที่มีวางขายในซุปเปอร์ฯแทน แต่ก็มีวิธีทำให้สำหรับคนที่อยากทำเองหมดนะครับ ดังนี้  ผสมแป้งข้าวเหนียว, เผือกนึ่ง(กรณีสีเทา), ฟักทอง(กรณีสีเหลือง), น้ำใบเตย (สีเขียว), น้ำดอกอัญชัญ (สีม่วง) ฯลฯ และน้ำเปล่าเข้าด้วยกัน นวดจนส่วนผสมทุกอย่างเข้ากันเป็นเนื้อเดียว จากนั้นจึงนำมาปั้นเป็นลูกกลมๆ เล็กๆ ระหว่างปั้นนั้น ควรโรยด้วยเศษแป้งข้าวเหนียวเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้ลูกบัวลอยติดกัน

วิธีทำ

1. ต้มน้ำในหม้อขนาดกลางให้น้ำเดือด สำหรับผมใช้กระทะไฟฟ้าแค่ใบเดียวก็เลยทำแค่เปิดสวิทช์กระทะรอให้กระทะร้อน และต้มน้ำให้เดือด ใส่ลูกบัวลอยลงไป2. เมื่อแป้งบัวลอยสุก ตักขึ้นแช่ในน้ำเย็น (บัวลอยที่สุกแล้วจะลอยขึ้น)

3. ตั้งกระทะให้ร้อน ใส่กะทิสำเร็จรูปผสมน้ำเปล่าในอัตรากะทิต่อน้ำประมาณ 2:1 ใส่เกลือป่นเล็กน้อย ใส่น้ำตาลมะพร้าวหรือน้ำตาลปี๊บ และคนให้น้ำตาลละลายเข้ากันดี ลองชิมรสถ้าไม่หวานค่อยเติมน้ำตาลทรายลงไป รสชาติจะออกหวาน เค็มมันนิด ๆ ครับ

4. ตักแป้งบัวลอยจากที่เราแช่ในน้ำเย็นเอาไว้ลงไปต้มในกะทิ

5. ตอกไข่ใส่ลงไปในบัวลอยน้ำกะทิที่กำลังเดือด เมื่อไข่สุก ปิดสวิทช์กะทะ หรือยกลงจากเตา ตักใส่ถ้วยเสิร์ฟได้เลยครับ

แป้งบัวลอยที่สุกจะลอยขึ้น ตักแป้งบัวลอยที่สุกแล้วมาแช่ในน้ำเย็น ใส่ไข่ลงไปในบัวลอยน้ำกะทิที่กำลังเดือด

หน้าตาของ “บัวลอยไข่หวาน” ที่สำเร็จแล้วครับ แหม ดูเหมือนที่เขาทำ ขายกันเลยนะเนี่ย

Photo0595_800x600

รูปภาพประกอบบทความนี้ทั้งหมดถ่ายด้วยกล้องโทรศัพท์มือถทอคู่ใจ Nokia X-3 เช่นเคยครับ

ขอให้ทำกับข้าวให้สนุกและอร่อยนะครับ

(30 กรกฏาคม 2554)

ใส่ความเห็น